Home » Sentence Structure โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ คืออะไร มีอะไรบ้าง

Sentence Structure โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ คืออะไร มีอะไรบ้าง

sentence structure หรือ โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ เปรียบเสมือนรถไฟที่ต่อคำเป็นประโยค

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ (Sentence Structure) คืออะไรกันนะ?

น้องๆหลายคนคงจะเคยประสบปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษที่น่าปวดหัว ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของไวยากรณ์หรือแกรมม่า เพราะในภาษาอังกฤษนั้น มันมีหัวข้อทางไวยากรณ์มากมาย มากเสียจนกระทั่งว่า น้องๆไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรียนรู้จากจุดไหน และควรเรียนเรื่องไหนก่อนหรือหลังเพื่อประโยชน์สูงสุด

วันนี้พี่มีคำตอบ เพราะจริงๆแล้ว เราควรต้องเริ่มต้นจากการเรียงลำดับความสำคัญของไวยากรณ์ที่เราต้องรู้ เพื่อนำความรู้เหล่านั้นไปใช้ในการแต่งประโยคในภาษาอังกฤษ

ใช่แล้วน้องๆ หากเรารู้ว่าเป้าหมายในการเรียนไวยากรณ์ของเราคือเพื่อการแต่งประโยคภาษาอังกฤษขึ้นมาหนึ่งประโยค เราจะพบว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้ไวยากรณ์ทุกหัวข้อ แต่เราต้องรู้จักหัวข้อที่สำคัญก่อน ซึ่งพี่รับรองเลยว่า น้องๆสามารถเริ่มได้จากแกรมม่าเพียง 1-2 หัวข้อ น้องๆก็สามารถเริ่มแต่งประโยคหรือใช้งานภาษาอังกฤษได้แล้ว พี่เดาว่าน้องๆคงเริ่มสนใจและพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมๆกันแล้ว เอาล่ะ เรามารู้จักกับไวยากรณ์หัวข้อแรกกันเลยดีกว่า

รถไฟ - Sentence Structure (โครงสร้างของประโยคภาษาอังกฤษ)

            พี่อยากให้น้องๆลองจินตนาการถึงขบวนรถไฟขบวนหนึ่ง และให้น้องๆตั้งชื่อมันว่า Sentence หรือ ประโยค ขบวนรถไฟของน้องๆนี้มีหน้าที่สำคัญมากๆเลยก็คือ การนำส่งสินค้า (Message หรือสารที่ต้องการสื่อ) จากเมือง A ไปยังเมือง B (จากผู้ส่งสาร ไปยังผู้รับสาร) ผ่านรางรถไฟของน้องๆ (Communication หรือ การสื่อสารนั่นเอง)   
             น้องๆเริ่มเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมว่า จริงๆแล้วในชีวิตประจำวันของเราทุกคน เมือง A และเมือง B มีรถไฟเข้าออกตลอดเวลา การที่เราสามารถออกแบบหรือสร้างรถไฟประโยคของเราได้ดีมากเท่าไหร่ ถูกต้องมากเท่าไหร่ เมือง A และเมือง B ก็จะได้สินค้าที่มีคุณภาพดีมากขึ้นเท่านั้น 

เอาล่ะ เรามารู้จักกับรถไฟของเรากันให้มากขึ้นกันเถอะ

          ก่อนอื่น พี่ขอสร้างความเข้าใจกับน้องๆให้ตรงกันก่อนว่า จริงๆแล้วรถไฟหรือประโยคนั้นก็มีหลายรุ่น หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟรุ่นบอกเล่า(Affirmative sentence) รถไฟรุ่นปฏิเสธ(Negative sentence) รถไฟรุ่นขอร้อง(Request) หรือรถไฟรุ่นคำสั่ง(Imperative sentence) ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีวิธีการประกอบหรือสร้างรถไฟที่ต่างกัน แต่เพื่อความง่ายในการอธิบายเบื้องต้น พี่จะขอหยิบรถไฟรุ่นบอกเล่าและปฏิเสธ(เรียกรวมๆกันว่า Declarative sentece) มาให้น้องๆรู้จักกันก่อน

           รถไฟที่ดีควรมีครบองค์ประกอบ นั่นคือ หัวรถ (Subject หรือประธาน) และโบกี้หรือขบวนรถ (Predicate หรือภาคแสดง) โดยประธานหรือหัวรถของน้องๆ จะทำหน้าที่บอกว่า ใครหรืออะไรเป็นคนขับรถไฟขบวนนี้ และโบกี้หรือภาคแสดงของน้องๆจะบอกว่าคนขับรถเป็นคนอย่างไร ขับรถแบบไหน เร็วหรือช้า เป็นต้น ซึ่งน้องๆสามารถมีได้หลายโบกี้ แต่โบกี้ที่ต้องยืนพื้นเลยก็คือ โบกี้กริยา (Verb) ส่วนโบกี้อื่น พี่ขอเรียกว่าโบกี้เสริม ที่จะช่วยให้ใส่สินค้าได้มากขึ้น สวยงามขึ้น ตามแต่ความหมายที่น้องๆต้องการสื่อออกไป เช่นโบกี้กรรม (Object) และโบกี้ส่วนขยายหรือเติมเต็ม (Complement)

           พี่ขอแอบบอกน้องๆนิดนึงว่า ส่วนขยายหรือเติมเต็ม (Complement-C) นั้นสามารถเติมเต็มได้แทบจะทุกภาคส่วนของขบวนรถไฟของน้องๆ ไม่ว่าจะเป็น เติมเต็มประธาน (Subject complement) หรือเติมเต็มภาคแสดง (Predicate complement) ซึ่งเราจะยังไม่ลงรายละเอียดกันมากในวันนี้ 

เพราะฉะนั้น ตอนนี้น้องๆน่าจะพอรู้แล้วว่า รถไฟรุ่นบอกเล่าและปฏิเสธจะส่งสินค้าหรือข้อความที่บอกว่า ใครทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ หรือทำไม

Sentence Strucutre หรือ รถไฟของน้องๆจะเป็นได้ดังนี้

หัวรถ (Subject หรือ S) + โบกี้ (Predicate ซึ่งประกอบไปด้วย Verb หรือ V อาจจะตามมาด้วย Object หรือ O แม้กระทั่ง Complement หรือ C)

หรือเขียนให้อยู่ในรูปอย่างง่าย จะได้เป็นในลักษณะนี้

โครงสร้างประโยค S + V (ในกรณีที่กริยาไม่ต้องการกรรม)

Affirmative Negative
S+V S+Negative Indicator+V
My mother runs My mother does not run.
แม่ของฉันวิ่ง แม่ของฉันไม่วิ่ง

ซึ่งประโยคนี้มีความหมายครบ จบแล้วในตัวของมันเอง runs เป็นกริยาที่ไม่ต้องการกรรมมารองรับ (Intransitive Verb)

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ แบบ S + V + C

Affirmative Negative
S+V+C S+Negative Indicator+V+C
My mother runs at the park everyday. My mother does not run at the park everyday.
แม่ของฉันวิ่งที่สวนทุกวัน แม่ของฉันไม่ได้วิ่งที่สวนทุกวัน

วลี at the park everyday ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายให้เรารู้ว่า แม่วิ่งที่ไหน เป็นการเพิ่มรายละเอียดให้กับตัวกริยา runs ของเราให้มีความหมายมากขึ้น จึงเป็น C ไม่ใช่ O (เป็นส่วนขยายกริยา ไม่ใช่กรรมของกริยานั่นเอง)

โครงสร้าง S + V + O

Affirmative Negative
S+V+O S+Negative Indicator+V+O
My mother eats apples. My mother does not eat apples.
แม่ของฉันกินแอปเปิ้ล(มากกว่า 1 ผล) แม่ของฉันไม่กินแอปเปิ้ล

ในที่นี้ apples เป็นกรรมของกริยา eats เพราะในที่นี้ ประโยคจะไม่สมบูรณ์ในทางความหมาย หากเราตัดคำว่า apples ออก ประโยคจะเหลือแค่ My mother eats ซึ่งจะเกิดคำถามขึ้นว่า แม่กินอะไร เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่า eats ในที่นี้เป็นกริยาที่ต้องมีกรรมมารองรับ (Transitive Verb)

โครงสร้างประโยค S+V+O+C

Affirmative Negative
S+V+O+C S+Negative Indicator+V+O+C
My mother eats apples everyday. My mother does not eat apples everyday.
แม่ของฉันกินแอปเปิล(มากกว่า 1 ผล)ทุกวัน แม่ของฉันไม่กินแอปเปิลทุกวัน

คำว่า everyday ทำหน้าที่เป็นส่วนขายหรือเติมเต็ม ที่ไปขยายกริยา eats เพื่อบอกให้เรารู้ว่า แม่กินแอปเปิลอย่างไร คำตอบคือ แม่กินแอปเปิลทุกวัน เพราะฉะนั้น Complement ของเราจะเป็น Predicate complement ซึ่งขยายภาคแสดงในส่วนของกริยานั่นเอง

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ แบบ S+V+O+O

Affirmative Negative
S+V+O+O S+Negative Indicator+V+O+O
My mother named me Sood-Lhor. My mother did not name me Sood-Lhor.
แม่ของฉันตั้งชื่อฉันว่าสุดหล่อ(เหตุการณ์ในอดีต) แม่ของฉันไม่ได้ตั้งชื่อฉันว่าสุดหล่อ(เหตุการณ์ในอดีต)

ในประโยครูปแบบนี้ จะมีกรรม 2 ตัว ซึ่งตัวหนึ่งจะเป็นกรรมตรง (Direct Object) ส่วนอีกตัวจะเป็นกรรมรอง (Indirect Object) ซึ่ง DO จะเป็นกรรมหลักของประโยค ซึ่งในที่นี้คือ me สังเกตุได้จาก เนื้อหาของประโยคช่วงแรกคือ My mother name me แปลได้ว่า แม่ตั้งชื่อฉัน โดย me เป็นกรรมของกริยา named (ตั้งชื่อ) แต่เห็นอย่างนี้แล้ว น้องๆคงจะรู้สึกว่า คำถามจะเกิดขึ้นคือ แม่ตั้งชื่อฉันว่าอะไร และนี่เอง Sood-Lhor (สุดหล่อ) ที่เป็น IO หรือกรรมรองเข้ามามีบทบาทในการขยายและส่งเสริมความหมายของประโยค

Sentence Structure เหมือนรถไฟ วางเป็นโครงสร้างประโยค

บทสรุป Sentence Structure

ตอนนี้น้องๆก็คงพอจะได้ไอเดียคร่าวๆของโครงสร้างรถไฟ (โครงสร้างประโยค) ในรูปแบบต่างๆกันอย่างคร่าวๆแล้ว ในครั้งหน้าเราจะมารู้จักกับ Parts of speech หรือชนิดของคำ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างรถไฟหรือแต่งประโยคของน้องๆกัน สำหรับวันนี้พี่ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *